วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

แผ่เมตตาตามแบบพระพุทธเจ้าทำอย่างไร





 
การเจริญเมตตา

(หรือการเจริญพรหมวิหาร )
เธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักตั้งมั่น
ดำรงอยู่ด้วยดีในภายใน และอกุศลธรรมอันเป็นบาป
ที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้ เมื่อใด จิตของเธอ
เป็นจิตตั้งมั่น ดำรงอยู่ด้วยดีแล้วในภายใน และอกุศล-
ธรรมอันเป็นบาปที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ครอบงำจิตได้ เมื่อนนั้
เธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเจริญ กระทำให้มากซึ่ง
เมตตาเจโตวิมุตติ, กรุณาเจโตวิมุตติ, มุทิตาเจโตวิมุตติ,
อุเบกขาเจโตวิมุตติ ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง
ให้มั่นคง สั่งสม ปรารภดีแล้ว
เมื่อเธอพิจารณาเห็นตนบริสุทธิ์ พ้นแล้วจาก
อกุศลธรรมอันเป็นบาปที่เกิดขึ้น ปราโมทย์ก็เกิด
เมื่อเธอเกิดปราโมทย์แล้ว ปีติก็เกิด เมื่อเธอมีใจ
ประกอบด้วยปีติแล้ว กายก็สงบรำงับ ผู้มีกายสงบรำงับ
ย่อมเสวยสุข จิตของผู้มีสุขย่อมตั้งมั่นเป็นสมาธิ
เธอมีจิตประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนนั้ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๓ ก็อย่างนนั้
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๔ ก็อย่างนนั้ และเธอมีจิตประกอบด้วย
เมตตา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้
ไม่มี เวร ไม่มี พยาบาท แผ่ไปทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง
ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่
มีจิตประกอบด้วยกรุณา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนนั้ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๓ ก็อย่างนนั้
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๔ ก็อย่างนั้น และเธอมีจิตประกอบด้วย
กรุณา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้
ไม่มีเวร ไม่มี พยาบาท แผ่ไปทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง
ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่
มีจิตประกอบด้วยมุทิตา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนนั้ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๓ ก็อย่างนั้น
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๔ ก็อย่างนั้น และเธอมีจิตประกอบด้วย
มุทิตา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้
ไม่มี เวร ไม่มี พยาบาท แผ่ไปทั้ง เบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง
ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่
มีจิตประกอบด้วยอุเบกขา แผ่ไปสู่ทิศที่ ๑ อยู่
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๒ ก็อย่างนนั้ แผ่ไปสู่ทิศที่ ๓ ก็อย่างนนั้
แผ่ไปสู่ทิศที่ ๔ ก็อย่างนั้น และเธอมีจิตประกอบด้วย
อุเบกขา อันกว้างขวาง เป็นส่วนใหญ่ หาประมาณมิได้
ไม่มี เวร ไม่มี พยาบาท แผ่ไปทั้งเบื้องบน เบื้องต่ำ เบื้องขวาง
ทั่วทุกทาง เสมอหน้ากันตลอดโลกทั้งปวงที่มีอยู่
สระโบกขรณี มีน้ำใสจืด เย็น สะอาด มีท่าอันดี
น่ารื่นรมย์ ถ้าบุรุษมาแต่ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก
ทศิ เหนือ ทิศใต้ และจากที่ไหนๆ อันความร้อนแผดเผา
เร่าร้อน ลำบาก กระหาย อยากดื่มน้ำ เขามาถึง
สระโบกขรณนี นั้ แล้ว ก็บรรเทาความอยากดื่มนํ้า และ
ความกระวนกระวายเพราะความร้อนเสียได้ แม้ฉันใด
เธอมาถึงธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว เจริญเมตตา
กรุณา มุทิตา และอุเบกขาอย่างนั้น ย่อมได้ความสงบจิต
ณ ภายใน ก็ฉันนั้น เหมือนกัน เรากล่าวว่าเป็นผู้ปฏิบัติ
ข้อปฏิบัติอันดียิ่ง
เปรียบเหมือนคนเป่าสังข์ผู้มีกำลัง ย่อมเป่าสังข์
ให้ได้ยินได้ทั้งสี่ทิศไม่ยากฉันใด ในเมตตาเจโตวิมุตติ
(กรุณาเจโตวิมุตติ..., มุทิตาเจโตวิมุตติ..., อุเบกขาเจโต-
วิมุตติ...,) ที่เจริญแล้วอย่างนี้ กรรมชนิดที่ทำอย่างมี
ขีดจำกัดย่อมไม่มีเหลืออยู่ ไม่ตั้งอยู่ในนั้น ก็ฉันนั้น
เมื่อใดเธอเจริญสมาธินี้อย่างนี้ เจริญดีแล้ว
เมื่อนั้นเธอจักเดินไปในทางใดๆ ก็จักเดินเป็นสุข
ในทางนั้นๆ ยืนอยู่ในที่ใดๆ ก็จักยืนเป็นสุขในที่นั้นๆ
นั่งอยู่ในที่ใดๆ ก็จักนั่งเป็นสุขในที่นั้นๆ นอนอยู่ที่ใดๆ
ก็จักนอนเป็นสุขในที่นั้นๆ
เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติ อันบุคคลเสพมาแต่แรก
ทำให้เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยาน
ที่เทียมดีแล้ว ทำให้เป็นที่ตั้ง ประพฤติสั่งสมเนื่องๆ
ปรารภสมํ่าเสมอดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ อย่าง คือ
หลับเป็นสุข ๑
ตื่นเป็นสุข ๑
ไม่ฝันร้าย ๑
เป็นที่รักของพวกมนุษย์ ๑
เป็นที่รักของพวกอมนุษย์ ๑
เทพยดารักษา ๑
ไฟก็ดี ยาพิษก็ดี ศัสตราก็ดีไม่ต้องบุคคลนนั้ ๑
จิตตั้งมั่นได้รวดเร็ว ๑
สีหน้าผุดผ่อง ๑
ไม่หลงทำกาละ ๑
เมื่อยังไม่บรรลุคุณวิเศษที่ยิ่งขึ้นไป
ย่อมเกิดในพรหมโลก ๑
เมื่อเมตตาเจโตวิมุตติ อันบุคคลเสพมาแต่แรก
ทำให้เจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ทำให้เป็นดุจยาน
ที่เทียมดีแล้ว ทำให้เป็นที่ตั้ง ประพฤติสั่งสมเนืองๆ
ปรารภสม่ำเสมอดีแล้ว พึงหวังอานิสงส์ ๑๑ อย่างนี้แล.
อํ. สตฺตก. ๒๓/๓๐๘/๑๖๐
ม. มู. ๑๒/๕๑๘/๔๘๒
ที. สี ๙/๓๑๐/๓๘๓-๔
อํ. เอกาทสก. ๒๔/๓๗๖/๒๒๒

8 ความคิดเห็น:

  1. ผมสวดทุกวันครับขอบ ดีมากครับ

    ตอบลบ
  2. หลังจากแผ่ออกไปแล้วหมดแรงคือร่างกายไม่มีแรงเหมือนคนอ่อนเพลียมันเกิดจากสาเหตุอะไรครับบางครั้งก็เป็นบางครั้งก็ไม่เป็น

    ตอบลบ
  3. หลังจากแผ่ออกไปแล้วหมดแรงคือร่างกายไม่มีแรงเหมือนคนอ่อนเพลียมันเกิดจากสาเหตุอะไรครับบางครั้งก็เป็นบางครั้งก็ไม่เป็น

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สำหรับตนเองไม่เป็นลองทำจิตให้เบิกบานจิตไม่มีนิวรณ์5ต้องทำสมาธิอานาปนสติก่อนจึงค่อยๆแผ่ไปอย่าไม่ตึงเครียดแบบทำใจให้สบายๆ

      ลบ
    2. ผมเองก็เป็นเหมือนกันครับบางครั้งเป็นบางครั้งไม่เป็น ส่วนใหญ่ที่เป็นคือครั้งที่จิตสงบไม่มีอารมณ์เมื่อแผ่จะกังวาลส่งไปทั่วทิศไม่มีกำหนดและไม่มีความรู้สึกรอบข้างมาแทรก จะหมดแรงค่อนข้างมากหลายวัน 1-3วันโดยประมาณ งงเหมือนกันครับ แต่ถ้าวันไหนไม่สงบรู้สึกไม่ไกลคืออยู่แค่รอบห้องแรงก็จะไม่หมด สงสัยผมจะทำน้อยไปจิตเลยไม่มีแรง

      ลบ
  4. อนุโมทนา..สาธุๆๆ. ดีที่สุด ถ้าจิตเห็นการเกิดดับด้วย

    ตอบลบ